“Slow Route” เดินทางท่องเที่ยวแบบยั่งยืนและมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม
การท่องเที่ยวและการเดินทางเชิงอนุรักษ์ หรือ “Slow Route” เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มนักเดินทางไมซ์ เนื่องจากเป็นการเปิดโอกาสให้นักเดินทางได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งจากผลสำรวจ Booking.com’s full 2022 Sustainable Travel Research Report เผยให้เห็นว่า “นักเดินทางทั่วโลกกว่า 80% ให้ความสำคัญกับการเดินทางเชิงอนุรักษ์” เป็นรูปแบบการเดินทางที่ตอบโจทย์ความต้องการนักเดินทางยุคใหม่

ดร. กฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค. เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดงานไทยเที่ยวไทย ได้มองเห็นโอกาสจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (Conservation Tourism) โดยกล่าวว่า “เทรนด์การท่องเที่ยว และการเดินทางเชิงอนุรักษ์ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในอนาคต รวมทั้งจะช่วยเพิ่มเสน่ห์และเป็นพลังเสริมให้ดึงดูดนักเดินทางมากขึ้น”

บริษัทฯ จัดทำโครงการเที่ยวรักษ์โลก ในปี 2568 วัตถุประสงค์เพื่อมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนให้นักท่องเที่ยวได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางโดยใช้วิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม “นักเดินทางต่างอยากได้ประสบการณ์ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับสิ่งแวดล้อมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ยังคงสามารถดำเนินการต่อได้” ซึ่งสามารถนำสิ่งที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี เช่น การปั่นจักรยาน มาจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ปั่นจักรยานรอบๆ สถานที่ท่องเที่ยวแทนการใช้รถยนต์ ถือเป็นการสร้างคุณค่าทางจิตใจให้กับนักท่องเที่ยว และทำให้เห็นว่าเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการเดินทางแบบ “Slow Route” ซึ่งจะช่วยให้กิจกรรม MICE ทั้งการจัดประชุม สัมมนา รวมทั้งการจัดงานไทยเที่ยวไทย ดูมีคุณค่ามากยิ่งขึ้นในสายตาคนรุ่นใหม่